วันจันทร์ที่ 28 มกราคม พ.ศ. 2556

การใช้ความรุนแรงในครอบครัวและสังคม(Violence in the family and society.)

ความรุนแรงในครอบครัว 


 ความรุนแรงในครอบครัว



การที่เด็กถูกทารุณกรรมน่าจะเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความบกพร่องของสถาบัน ครอบครัว และสังคมไทยแม้ว่าภาครัฐและภาคเอกชนจะยื่นมือเข้าช่วย แต่ก็พบว่าการช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทั้งนี้เพราะสังคมไทยมีแนวคิดว่าเด็กเป็นสมบัติของพ่อแม่ และถือว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัวบุคคล ภายนอกไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว สาเหตุของการทารุณกรรม
สาเหตุของการทารุณกรรมเท่าที่สังเกตจากผู้ถูกกระทำมารับบริการในโรง พยาบาลพบว่า การทำทารุณกรรมเด็กเกิดจากปัจจัยทั้งที่เกี่ยวกับบิดามารดา และภูมิหลัง ความตึงเครียดจากสิ่งแวดล้อม และลักษณะของเด็ก บิดามารดาที่ทารุณกรรมบุตรมักรู้สึกไม่พึงพอใจในบทบาทพ่อแม่ ยิ่งเคยถูกทารุณกรรมมาก่อนก็ยิ่งเสี่ยงต่อการทารุณกรรมบุตร บิดามารดาอายุน้อยโดดเดี่ยวว่างงาน รายได้ไม่เพียงพอ ประกอบกับเด็กอาจสร้างปัญหาให้เป็นที่รำคาญอาจเนื่องจากพฤติกรรมซุกซน ก้าวร้าว เกเร พิการ เจ็บป่วยเรื้อรัง เป็นต้น จะเห็นได้ว่าสาเหตุของการทำทารุณกรรมเด็กมีหลายประการแต่พอจำแนกได้ดังนี้

 
  1.  บุคลิกภาพของผู้ปกครองเนื่องจากเคยถูกทารุณมาก่อน หรือฤทธิ์ของสารเสพติด หรือการเจ็บป่วยทางจิต
  2. ปัญหาจากเด็ก เช่น เด็กซุกซนอยู่ไม่นิ่ง เด็กพิการ เด็กขี้โรค พัฒนาการล่าช้า เป็นลูกติดสามี หรือภรรยา
  3. การขาดที่พึ่ง หมายถึงบิดามารดา หรือคนเลี้ยงรู้สึกถูกทอดทิ้งจากญาติ ขาดเพื่อนที่จะคอยให้ความช่วยเหลือ
  4. สาเหตุจากสิ่งแวดล้อมและสภาพทางเศรษฐกิจ รวมทั้งภาวะวิกฤตที่เกิดขึ้นมักพบว่าการกระทำทารุณเด็กมีความเกี่ยวข้องกับ ความยากจนพ่อแม่ที่กระทำทารุณเด็ก มักจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ใช้ความรุนแรงในชีวิต ประจำวัน และอยู่ในระบบของชุมชนที่มีการช่วยเหลือทางสังคมต่ำ
  5. สาเหตุจากการจัดการศึกษาที่ไม่เหมาะสมในระบบการศึกษาวัยก่อนเรียน สาเหตุนี้มักก่อให้เกิดปัญหาการกระทำทารุณ โดยเฉพาะการกระทำทารุณทางอารมณ์ (Emotion Abuse) เพราะมีการเร่งรัด ผลักดันให้เด็กเรียนอย่างไม่เหมาะสมกับวัย







สาเหตุของการทารุณกรรมเด็กคงมิใช่เนื่องมาจากสาเหตุใดสาเหตุหนึ่ง
หากแต่เชื่อว่าจะต้องมีหลายสาเหตุประกอบกัน ที่ก่อให้เกิดการทารุณกรรมในเด็กจากที่กล่าวข้างต้น เด็กที่ถูกทารุณกรรมในสังคมไทยที่ปรากฏเป็นเพียงจำนวนบางส่วนเท่านั้น เชื่อว่ายังมีเด็กที่ถูกทารุณกรรมอีกเป็นจำนวนมากที่ไม่มีการรายงาน ที่สำคัญพบว่าการทารุณกรรมเด็กในสังคมไทยได้กลายเป็นปัญหาสังคมที่มีแนวโน้ม เพิ่มขึ้นทุกขณะ ตามสภาพสังคมปัจจุบันที่มุ่งเน้นพัฒนาความเติบโตทางเศรษฐกิจมากจนเกินไปจึง ก่อให้เกิดความแตกต่างทั้งทางด้านฐานะและรายได้ของคนในสังคม โดยมิได้มีการพัฒนาด้านสังคม และด้านจิตใจควบคู่กันไปด้วย ย่อมส่งผลให้สภาพจิตใจและสภาพแวดล้อมทางสังคมเสื่อมลง ก่อให้เกิดปัญหาต่างๆ ตามมานับตั้งแต่ปัญหาครอบครัวแตกแยก การหย่าร้าง การทะเลาะวิวาท ซึ่งส่งผลกระทบต่อสมาชิกทุกคนในครอบครัวและการที่เด็กถูกทารุณกรรมน่าจะเป็น สัญญาณที่บ่งบอกถึงความบกพร่องของสถาบันครอบครัว และสังคมไทย แม้ว่าภาครัฐและภาคเอกชนจะพยายามยื่นมือเข้าช่วยเหลือเด็กเหล่านี้ แต่ก็พบว่าการช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทั้งนี้เพราะสังคมไทยมีแนวคิดว่าเด็กเป็นสมบัติของพ่อแม่ และถือว่าเป็นเรื่องภายในครอบครัวบุคคล ภายนอกไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว
ในปัจจุบันได้มีนักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ จิตแพทย์ ครู และผู้มีอาชีพด้านเด็กโต้แย้งคัดค้านการลงโทษเด็กด้วยการทำร้ายร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทำด้วยอารมณ์โกรธแค้น และไม่สมกับเหตุผล เพราะว่าจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อตัวเด็กใน 3 ด้าน ได้แก่ ด้านร่างกาย ที่มักทำให้เกิดบาดแผลกับอวัยวะภายนอกและภายในอย่างชัดเจน บางรายมีอาการบาดเจ็บรุนรางส่งผลให้พัฒนาการของเด็กชะงักงันได้ ด้านจิตใจและอารมณ์ เด็กมักมีอารมณ์ซึมเศร้า เก็บกด หรือมีการต่อต้านอย่างรุนแรงต่อคำสั่งของผู้ใหญ่ ตลอดจนมีพฤติกรรมที่แสดงปัญหาทางอารมณ์ที่ผิดปกติอื่นๆ ผลกระทบต่อตัวเด็กที่สำคัญอีกด้านหนึ่งคือผลกระทบต่อพฤติกรรมของเด็กในระยะ ยาว การทารุณกรรมจะสะสมให้เด็กเรียนรู้วิธีแก้ปัญหาความขัดแย้งด้วยการใช้ความ รุนแรงและใช้กำลังกายในการตัดสินปัญหา แทนการใช้เหตุผล มีผลให้เด็กกลายเป็นคนต่อต้านสังคม มีความก้าวร้าว และสร้างปัญหาสังคม โดยสรุปแล้วการทารุณกรรมเกิดผลกระทบหลายด้านพร้อมกัน ผลที่เกิดขึ้นกับเด็กที่ถูกทารุณกรรม ไม่ใช่เพียงด้านสุขภาพและจิตใจ หรืออารมณ์ของเด็กเท่านั้น ด้านครอบครัว สังคม กฎหมาย รวมไปถึงขนบธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม จริยธรรม และศาสนา เป็นสิ่งที่จะได้รับผลกระทบไปด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และก่อให้เกิดปัญหาแทรกซ้อนตามมานอกเหนือ จากปัญหาการทารุณกรรมเด็กเอง
ความสำคัญของปัญหาเด็กถูกทารุณกรรมดังกล่าว ถือว่าเป็นปัญหาทางจิตสังคมที่ร้ายแรงมากจำเป็นต้องหาทางช่วยเหลือแก้ไขโดย รีบด่วน มิฉะนั้นจะเกิดผลกระทบต่อตัวเด็กอย่างมาก ทั้งระยะสั้นและระยะยาว พยาบาลเป็นบุคคลที่ใกล้ชิดกับปัญหาเพราะมีโอกาสพบกับเด็กกลุ่มนี้ก่อน วิชาชีพอื่นๆ พยาบาลจึงมีความสำคัญต่อการป้องกันและช่วยเหลือเด็กที่ถูกทารุณกรรม ดังนั้นต้องมีความเข้าใจผลที่เกิดขึ้นตามมาทั้งสภาพจิตใจ หรืออารมณ์ของเด็ก ครอบครัว สังคมซึ่งเป็นสิ่งที่จะได้รับผลกระทบ เข้าใจปัญหาและติดตามให้ความช่วยเหลือเพื่อลดความรุนแรงของปัญหานั้น ป้องกันไม่ให้เด็กถูกทารุณกรรมซ้ำ รวมทั้งเยียวยาฟื้นฟูเด็ก ผู้ตกเป็นเหยื่อของการทารุณกรรมดังกล่าวให้สามารถกลับคืนสู่สังคมได้อย่าง ปกติลักษณะการให้การช่วยเหลือเมื่อพบเด็กถูกทารุณกรรม
เมื่อพบเด็กที่ถูกทารุณกรรมจากครอบครัว สิ่งแรกที่ควรกระทำอย่างเร่งด่วนคือ การรักษาบาดแผลความเจ็บป่วย ทางร่างกาย ในรายที่บาดเจ็บรุนแรงจำเป็นต้องปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อช่วยเหลือในการรักษา เช่น ศัลยแพทย์กระดูก แพทย์ทางระบบประสาท จักษุแพทย์ ฯลฯ หากพบว่าพ่อแม่มีแนวโน้มที่จะทำร้ายเด็กจำเป็นที่จะต้องแยกเด็กจากครอบครัว หลังจากที่ได้มีการรักษาอาการความเจ็บป่วยทางกายแล้ว สิ่งสำคัญที่ต้องกระทำควบคู่กันไป คือ การฟื้นฟูสภาพจิตใจที่บอบช้ำของเด็ก จากการที่ถูกคนในครอบครัว ซึ่งอาจเป็นพ่อหรือแม่แท้ ๆ ของเด็กเอง เป็นผู้กระทำทารุณกรรมต่อเด็ก หรือถูกทารุณกรรมจากพ่อเลี้ยงหรือแม่เลี้ยง ควรให้เด็กได้มีการระบายอารมณ์ และความรู้สึกต่าง ๆ ที่มีอยู่ ผู้รักษาควรมีการเสริมสร้างความมั่นใจต่อเด็กว่า เด็กจะไม่ถูกทารุณกรรมจากพ่อแม่อีก นอกจากการช่วยเหลือ โดยกระบวนการรักษา การฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจแล้ว สิ่งที่สำคัญ คือ การติดต่อพูดคุยกับพ่อแม่ ควรมีการประเมินสภาพจิต การประเมินบุคลิกภาพของพ่อแม่ ร่วมกับการซักถามประวัติของครอบครัวและ ชีวิตความเป็นอยู่สภาพที่กดดัน หรือปัญหาต่าง ๆ ที่ครอบครัวประสบอยู่ เพื่อเป็นเครื่องมือประเมิน ในการหาแนวทางการ ช่วยเหลือ ให้ตรงกับปัญหาที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขรวมถึงการเตรียมความพร้อมของพ่อ แม่ ให้สามารถรับผิดชอบและอบรมเลี้ยงดูเด็กด้วยเหตุผล และเลิกการใช้กำลัง การทารุณกรรมเด็กด้วยวิธีการรุนแรงอีกต่อไป
  
แบบทดสอบจ้า
http://school.obec.go.th/sukkajunghan/ex_m1_10.html  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...
Related Posts Plugin for WordPress, Blogger...